ULTRON จักรกลล้างพันธุ์มนุษย์

ประวัติ Ultron

อัลตรอนเกิดขึ้นจาก Dr.Henry “Hank” Pym (Ant-Man/Wasp/Yellow Jacket อัจฉริยะอันดับต้นๆของจักรวาลมาร์เวล) ที่ต้องการสร้างหุ่นยนต์เเอนดรอยด์ของตัวเอง เค้าจึงได้สร้างมันด้วยต้นเเบบกระบวนการคิดมาจากตัวของเค้าเอง

Hank Pym ระหว่างการสร้าง Ultron

ทำให้มันมีอารมณ์แบบมนุษย์ แต่สำหรับหุ่นยนตร์เเล้วมันไม่สามารถควบคุมอารมณ์ที่เเปรปรวนนี้ได้อย่างมนุษย์ มันจึงรู้สึกเกลียดชังมนุษย์รวมทั้งแฮงค์ที่เป็นผู้สร้างมัน จนเกิดเป็นเป้าหมายในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ มันจึงได้ทำการพัฒนาตัวเองขึ้นจนกลายเป็น Ultron-5 เเละเข้าต่อสู้กับอเวนเจอร์รวมทั้งเข้าร่วมกลุ่มวายร้ายอย่าง “Masters of Evil”

 

Ultron-1 และ Ultron-5

อัลตรอนคือผู้ให้กำเนิดหุ่นเเอนดรอยด์อย่าง “Vision” โดยอาศัยพื้นฐานร่างกายมาจาก “Human Torch” (คนละคนกับมนุษย์ไฟใน Fantastic Four ครับ เป็นตัวละครเก่ามีลักษณะเป็นหุ่นเเอนดรอยด์ตัวเเรกๆเลย) เเละคลื่นสมองมาจาก “Wonder Man” เเละโครงสร้างร่างกายที่เป็นโลหะเเบบเดียวกับตัวมันเอง เเต่ในภายหลังจากการที่วิชั่นได้เรียนรู้ถึงจิตใจของมนุษย์ เค้าจึงได้ทรยศต่ออัลตรอนเเละกลายเป็นสมาชิกของอเวนเจอร์นั่นเอง

Ultron และ Vision

อัลตรอนได้พัฒนาตัวเองไปอีกขั้นเป็น Ultron-6 ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายเป็นอดาเเมนเที่ยม! (โลหะที่เเข็งเเกร่งเกือบสุดของจักรวาลมาร์เวล) เป็น Ultron-7 ด้วยร่างกายที่ใหญ่ขึ้น ในขณะที่ Ultron-8 ได้สร้างหุ่นยนต์ที่มีต้นเเบบมาจาก Janet (ศรีภรรยาของเเฮงค์ พิม) เพื่อเป็นภรรยาของมันอย่าง “Jocasta” (ในภายหลังก็ได้ทรยศต่ออัลตรอนอีกเช่นกัน)

Ultron- 6,8 และ Jocasta

Ultron-9 ถูกทำลายลงด้วยบ่อหลอมอดาเเมนเที่ยม ขณะที่ Ultron-10 ถูก “Manchine Man” สั่งหยุดการทำงานลงได้ สำหรับ Ultron-11 ได้เข้าร่วมใน “Secret Wars” ส่วน Ultron-12 ซึ่งเป็นสมาชิกของ “The Lethal Legion” ได้ออกจากกลุ่มไปใช้ชีวิตอยู่ลำพังเพื่อชดใช้ความผิดที่ตนเองเคยก่อ เเต่ก็มิวายถูกทำลายลงด้วย Ultron-11

Ultron และกลุ่ม Lethal Legion

(ภาพจาก http://xxnightblade08xx.deviantart.com/art/Onslaught-Reborn-3-265753869)

Ultron-13 ถูกโปรเเกรมขึ้นด้วยบุคลิกเก่าๆในคราวเดียวกันโดย “Doctor Doom” ทำให้มันมีสภาพที่สับสนเเละทำให้พ่ายเเพ้ต่อ “Daredevil” ไป ส่วน Ultron-14 ที่ได้สร้างคู่หูของมันขึ้นมานั่นคือ “Alkhema” เเต่ทั้งสองกลับมีความคิดเห็นที่ต่างกันในเรื่องของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

Alkhema

ต่อด้วย Ultron-15 ซึ่งถูก Vision ไปพบที่ New Orleans โดยอัลตรอนเริ่มฝันและมีอารมณ์เหมือนมนุษย์ ทั้ง Ultron และ Vision รวมทั้ง Jocasta ได้เข้าสู้กับ Tabula Rasa วายร้ายซึ่งสามารถเปลี่ยนรูปร่างตนเองได้ และได้ปะทะกับ Anti-Vison จากจักรวาลอื่น สุดท้าย Ultron ก็ชนะทั้ง Tabula Rasa และ Anti-Vision ส่วน Vision ก็ลาออกจาก Avengers และร่วมเดินทางกับ Ultron พ่อขอเขาและ Jocasta

Ultron-15 และ Vision

Ultron กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งถึง 5 ตัวในเหตุการณ์ “Avengers Disassembled” ด้วยพลังของ “Scarlet Witch” (มิวเเทนท์ที่มีพลังเปลี่ยนเเปลงความจริง ลูกสาวของเเมกนีโต) ที่คลุ้มคลั่งทำให้ Vision คายลูกบอลเหล็กออกมา 5 ลูกเเล้วลูกบอลเหล่านั้นก็กลายร่างเป็นอัลตรอน!

Ultron ในเหตุการณ์ Avengers Disassembled

ต่อมา Ultron-16 ได้ยึด “สาธารณรัฐแห่งสโลเรเนีย” (Republic of Slorenia) และสร้างกองทัพ Ultron ขึ้นมา ในภายหลังเหล่าอเวนเจอร์นำโดยกัปตันอเมริกาก็มาสู้กับอัลตรอนและได้เผชิญหน้ากับ Ultron-17 , Ultron-23 และ Ultron-458 สุดท้ายเหล่าอเวนเจอร์ก็ชนะไปได้ด้วยความช่วยเหลือของ Hank Pym และด้วยความที่ร่างการของอัลตรอนสร้างด้วย Titanium และ Adamantium เพียงเล็กน้อย ทำให้ถูกโล่พลังงานของกัปตันอเมริกาทำลายได้

Ultron-16

Alkhema ได้สร้างจักรกลนามว่า “Bio-Synthezoids” เฉกเช่นเดียวกับที่ Ultron สร้าง Vision และในภายหลัง เหล่า Bio-Synthezoids ได้ถูกอัลตรอนนำไปสร้างตัวมันเองขึ้นใหม่ โดยที่อัลตรอนได้ฝังสิ่งที่เรียกว่า “Ultron Imperative” ไว้ใน Alkhema ตั้งแต่สร้างเธอขึ้นมา ทำให้ Alkhema ถ่ายทอด Ultron Imperative ให้กับ Bio-Synthezoids ไว้ด้วย และเกิดเป็น Ultron ชุดใหม่ขึ้นมา

ในเวลาหลังจากนั้น Ultron ซึ่งทุกคนคิดว่าตายไปแล้วหลังจากเหตุการณ์ใน Slorenia ได้ถูกคืนชีพในชุดเกราะ Iron Man โดยฝีมือของ Jocasta ซึ่งถูกฝัง Ultron Imperative ไว้ด้วยเช่นกัน

Ultron-18 ซึ่งเกิดใหม่ในชุดเกราะ Iron Man

ในระหว่างการต่อสู้กับ Mole Man ชุดเกราะ Iron Man และ Tony Stark ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเองกลายเป็นร่างผู้หญิงสภาพเปลือย เกิดการต่อสู้กับระหว่างตัวเธอและพวก Mole Man ทำให้อเวนเจอร์ได้รู้ถึงพลังของเธอเมื่อเธอสามารถทำให้ Ares และ Sentry ล้มลงไปกองได้เลย ทำให้ Ms.Marvel ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมสั่งถอยแต่ Janet(Wasp) ได้ลองเข้าไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นและพบว่าร่างนั้นเกิดจากการเลียนแบบตัวเธอเอง และพบว่าร่างนั้นคือ Ultron ในที่สุดส่วนที่เป็นผิวหนังของร่างนั้นก็หายไปกลายเป็นเหล็กทั้งตัว

(อ่านได้ใน http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2011/04/A10488426/A10488426.htmlขอขอบคุณกระทู้โดยคุณ The_Death_oF_Superman)

Ultron-19 ได้ยึด Helicarier และส่งข้อความไปหาโทรศัพท์ทุกเครื่องบนโลกว่าโลกจะถูกทำลายเพราะไม่มีทางที่ตัว Ultron จะถูกหยุดได้ ทีมอเวนเจอร์ได้พยายามขัดขวางแผนการของ Ultron และพบว่าเป็นแผนการที่ตัวร้ายตัวอื่นๆเคยใช้มาก่อน ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย Ares ซึ่งถูก Hank Pym ย่อส่วนได้นำไวรัสนามว่า Commodore 64 เข้าสู่ร่างของ Ultron ทำให้ Tony หลุดออกจากร่างนั้นได้ แต่ Ultron ก็ยังหนีไปได้

Ultron-19 ในร่างผู้หญิง

Ultron ที่หลังจากหายไป ก็ได้เข้าไปยึดครองเผ่า Phalanx และได้ค้นพบวิธีการรวมเทคโนโลยีกับอินทรียสารเข้าด้วยกัน ทำให้มันกลายเป็นที่สุดของทั้งสองอย่าง ดังนั้นมันจึงตั้งใจมองหา Adam Warlock เพื่อนำจิตของมันมาไว้ในร่างของ Adam โดยได้รับความช่วยเหลือจาก High Evolutionary และเมื่อการย้ายจิตสำเร็จ มันก็ได้วางแผนสร้างกองทัพ Adam Warlock ขึ้นมา แต่ก็ถูก Nova ขัดขวางไว้และใช้เทคโนโลยีของ Adam นำจิตของ Ultron ออกมาจากร่างของมันได้ ในภายหลัง Ultron ก็ถูก Wraith และ Quasar ทำลายแบบไม่ให้เกิดใหม่ได้

Ultron-20 และ Ultron ในร่าง Adam Warlock

พลังของอัลตรอนนั้นคือความเเข็งเเกร่งที่เเทบจะไม่มีทางถูกทำลายได้เลยด้วยร่างกายที่เป็นอดาเเมนเที่ยม! สามารถยิงลำเเสงเเละบินได้ทั้งในอากาศเเละอวกาศ รวมทั้งร่างกายเเละระบบปัญญาประดิษฐ์ในระดับเดียวกับอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นได้อย่างไม่มีสิ้นสุด ด้วยเป้าหมายที่ต้องการกวาดล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ ทำให้มันเป็นหนึ่งในวายร้ายตัวเอกของจักรวาลมาร์เวล!

 

Ultron ในฉบับภาพยนตร์ใน Avengers: Age of Ultron พากย์เสียงและ Motion Captured โดย James Spader โดยฉบับนี้ถูกสร้างโดย Tony Stark ไม่ใช่ Hank Pym เหมือนในคอมมิค

HAWKEYE ยอดธนูนัยน์ตาเหยี่ยว

ประวัติ : Hawkeye

คลินตัน ฟรานซิส บาร์ตัน ในวัยเด็กเขาสูญเสียพ่อและแม่ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงต้องเข้าไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่อยู่ได้หกปี คลิ้นท์และบาร์นี่ย์น้องชายของเขาก็หนีออกมาได้และเข้าไปทำงานอยู่คณะคาร์นิวัล

ในขณะนั้น เดอะ ซอร์ดแมน กำลังเสาะหาเด็กหนุ่มแววดีมาเป็นผู้ช่วยงาน เกิดชอบหน่วยก้านของเขา ขณะที่ ทริกช็อต ก็สนใจช่วยสอนเขาด้วย ทำให้คลิ้นท์ได้รับการฝึกฝนจนกลายเป็นนักยิงธนูฝีมือเลิศ ภายหลังคลิ้นท์พบว่า เดอะ ซอว์ดแมน ยักยอกเงินจากงานคาร์นิวัล เมื่อเขาไม่ยอมร่วมด้วยจึงเกิดการต่อสู้ผลจบลงที่เขาบาดเจ็บและถูกปล่อยทิ้งไว้ให้ตาย โดยที่ เดอะ ซอว์ด แมน หนีไปได้

หลังจากรอดตายมาได้ ทริกช็อตก็ดึงเขามาร่วมงานด้วย แต่ไม่นานก็ขัดแย้งกัน ทำให้เขาต้องแตกแยกกับทริกช็อตรวมถึงบาร์นี่ด้วย คลินท์ได้ฝึกฝนพัฒนาฝีมือการยิงธนูของเขาจนกลายเป็นดาวเด่นในคณะโชว์ที่เขาแสดงในนามของ ฮอว์คอาย เขารับงานโชว์ฝีมือตามคณะแสดงละครสัตว์อยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อเขาเผอิญได้พบ ไอรอนแมน ในขณะต่อสู้ไล่ล่าอาชญากร กลายเป็นเเรงจูงใจให้เขาอยากเป็นฮีโร่บ้าง อย่างไรก็ตาม ตอนเขาออกปฏิบัติการครั้งเเรกก็งานเข้า ถูกคนเข้าใจผิดนึกว่าเขาเป็นคนร้าย จนต้องหลบซ่อนปกปิดตัวตน

ต่อมาฮอว์คอายได้พบกับแบล็ควิโดว์ จารชนสาวโซเวียต ที่เขาตกหลุมรักเมื่อถูกแบล็ควิโดว์ปั่นหัวให้เขาหลงคิดว่าการทำให้ไอรอนแมนเสียท่าเป็นเรื่องท้าทายความสามารถยิ่งเขาจึงช่วยเธอจารกรรมผลงานที่คิดค้นโดย โทนี่ สตาร์ค ในขณะเกิดการต่อสู้กับไอรอนแมน แบล็ควิโดว์ได้รับบาดเจ็บมาก ฮอว์คอายจึงช่วยพาเธอหลบหนีแต่ก่อนที่เขาจะพาเธอไปโรงพยาบาล แบล็ควิโดว์ก็หนีหายไปแล้ว นับจากนั้นมาฮอว์คอายจึงตัดสินใจเข้าสู่วิถีแห่งคนกล้าสู้เพื่อพิทักษ์โลกอย่างเต็มตัว

หลังจากล้างภาพตัวร้ายจนได้รับการสนับสนุนจากไอรอนแมน ที่เล็งเห็นว่าเขาฉกาจฉกรรจ์มากพอที่จะเป็นฮีโร่ได้ แต่ก็เกิดลบเหลี่ยมกับเพื่อนร่วมทีมแล้ว เมื่อเขาแสดงท่าทางหวังจีบ สการ์เล็ต วิทช์ ทำให้ ควิกซิลเวอร์ พี่ชายของเธอเกิดอาการเขม่นเข้า แถมฮอร์คอายยังมักจะงัดข้อลองดีกับกัปตันอเมริกาที่เป็นผู้นำ แต่ด้วยวันเวลาที่ล่วงเลยไปก็ช่วยเยียวยามิตรภาพและการยอมรับซึ่งกันและกันดีขึ้น

Hawkeye เเละ Black Widow

ด้านของความสามารถนั้น ฮอว์คอายไม่มีพลังวิเศษ เเต่ความสามารถพิเศษของเขาก็คือ ความเป็นมือขมังธนูที่แม่นและเก่งกาจ มือและสายตาของเขาทำงานสอดประสานได้อย่างลงตัว ทั้งยังผ่านการฝึกฝนขว้างปาอาวุธต่างๆ เช่น มีดบิน ลูกดอก และบูมเมอแรง มีทักษะการสู้รบมือเปล่าที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ฮอว์คอายมีความเป็นผู้นำทีมที่ชาญฉลาดและนักวางกลยุทธ์ที่หลักแหลมอยู่ในตัว (เขาเป็นผู้นำทีม นิว อเวนเจอร์ส) แม้ว่าบางครั้งอาจจะระห่ำไปบ้าง เก่งเรื่องการออกแบบอาวุธ เเละมีความห้าวหาญในการขับขี่อากาศยานต่างๆ

ส่วนอาวุธคู่ใจนั้น ยามเขาเป็นฮอว์คอาย เขาจะใช้คันธนูและลูกศร “แบบพิเศษ” ต่างๆ เช่น ศรหัวพลุ ศรหัวระเบิด ศรหัว Sonic blast หัวใบเลื่อย ศรแก๊สน้ำตา ศรระเบิดควัน ศรหัวจรวด และ บูมเมอแรง เป็นต้น

CAPTAIN AMERICA ฮีโร่ผู้รักชาติ

ประวัติ : Captain America

“สตีฟ โรเจอร์ส” เป็นเพียงเด็กช่างศิลป์ตัวสูงโย่งผอมกะหร่องผู้อ่อนแอ มีเพียงความสามารถในการวาดภาพ เมื่อภัยคุกคามจากนาซีได้ก่อกำเนิด ทำให้สตีฟเกิดความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะรับใช้ชาติด้วยการเกณฑ์ทหาร แต่ก็ถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าขาดความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ

ในขณะนั้น “นายพลเชสเตอร์ ฟิลลิปส์” แห่งกองทัพบกสหรัฐ กำลังมองหาหนูทดลองสำหรับ“Operation Rebirth” โครงการลับสุดยอด เพื่อสร้างกองทหารที่ทรงพลัง และได้ยื่นข้อเสนอให้กับสตีฟ เขาไม่ลังเลใจที่จะเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร โดยผ่านการคัดเลือกก่อนจะกลายมาเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับเซรุ่ม “Super-Soldier” ซึ่งพัฒนาโดย “อับราฮัม เออร์สไกน์” นักวิทยาศาสตร์ผู้ใช้รหัสลับว่า “ดร. โจเชฟ ไรน์สไตน์” ด้วยการอาบรังสี “Vita” ทำให้สารเคมีในเซ่รุ่มทำปฏิกิริยากับร่างกาย เกิดเป็นความเปลี่ยนแปลงจากที่เคยเป็นหนุ่มอ่อนเเอกลับกลายเป็นมนุษย์ที่มีความแข็งแกร่งอย่างสูงสุดของขีดจำกัดมนุษย์

ทันทีที่การทดลองสำเร็จสายลับนาซีก็เปิดเผยตัวและสังหาร ดร. โจเซฟ ที่ไม่ยอมเผยรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนผสมที่มีความสำคัญในการผลิตเซรุ่มนี้ อีกทั้งเพราะไม่มีจดบันทึก ทำให้ไม่มีใครสามารถทำซ้ำเซรุ่มนี้ได้อีก โดยสุดท้ายสายลับนาซีจะถูกสตีฟจัดการลงได้

หลังจากความล้มเหลวของโครงการ Operation Rebirth สหรัฐจึงเปลี่ยนแนวทางด้วยการสร้างภาพของสตีฟให้เป็นซูเปอร์ฮีโร่ต่อต้านการจารกรรมและสัญลักษณ์แห่งการโฆษณาชวนเชื่อของชาติ เพื่อต่อต้านกับ “Red Skull” กลุ่มก่อการร้ายของพวกนาซี โดยมอบเครื่องแบบลายธงชาติที่สตีฟเป็นผู้ออกเเบบพร้อมโล่กันกระสุนและอาวุธคาดเอว ในชื่อ “Captain America” โดยเขาต้องปกปิดสถานภาพซูเปอร์ฮีโร่ ด้วยการปลอมตัวเข้าไปเป็นพลทหารประจำกองทหารราบ ณ ค่าย “Lehigh” ในรัฐวอร์จีเนีย โดยสตีฟได้ผูกมิตรกับ “บั๊คกี้ บาร์นส์” ที่ดันล่วงรู้ถึงความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของสตีฟเข้า เขายอมที่จะปิดปากเพราะได้เป็นคู่หูร่วมปราบเหล่าอธรรม

กัปตันอเมริกาเเละบัคกี้

ต่อมาสตีฟได้รับมอบโล่ใหม่ที่ทำจากเเร่ไวเบรเนี่ยม ซึ่งมีความแข็งแกร่งมากในจักรวาลมาร์เวลจนเเทบจะไม่มีอะไรทำลายได้ เเถมสามารถดูดซับเเรงกระเเทกได้อย่างมหาศาลเเละสามารถเพิ่มความเเข็งเเกร่งได้เรื่อยๆ ในขณะเดียวกันก็มีน้ำหนักเบาพอจะใช้ขว้างได้ดั่งบูมเมอร์แรง

ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่สองจะสิ้นสุด กัปตันอเมริกาและบั๊คกี้ได้ยับยั้งแผนร้ายของ “บารอน เซโม” นักวิทยาศาสตร์เเห่งกองทัพนาซีที่ต้องการทำลายเครื่องบินด้วยระเบิดจำนวนมาก ทั้งสองได้เข้าไปในตัวเครื่อง บั๊คกี้ได้พยายามปลดชนวนระเบิดก่อนเกิดการปะทุบนอากาศ ผลลัพธ์คือ ทุกคนเชื่อว่าบั๊คกี้ได้เสียชีวิตไปพร้อมกับเครื่องบิน ส่วนกัปตันอเมริกาก็ตกลงไปยังมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือซึ่งน้ำเย็นจัดจนถึงจุดเยือกแข็งผู้คนต่างคิดว่าเขาตายไปแล้ว

เวลาล่วงเลยไป เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ทีม “The Avengers” ได้พบร่างของสตีฟในเครื่องแบบกัปตันอเมริกาในสภาพที่ยังคงถือโล่ ถูกแช่อยู่ในก้อนน้ำแข็ง เมื่อช่วยออกมาก็ปรากฏว่าเขายังมีชีวิตอยู่ อันเป็นผลจากการทดลองโครงการ Operation Rebirth เมื่อปะติปะต่อเรื่องราวก็พบว่า กัปตันอเมริกานั้นถูกแช่แข็งตั้งแต่ปี 1945 หลังจากนั้นสตีฟก็เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม The Avengers ด้วยความเป็นผู้นำที่มีสปิริทเเรงกล้าเขาจึงกลายเป็นหัวหน้าทีมในเวลาอันรวดเร็วและดำรงตำแหน่งนี้เรื่อยมา

THOR เทพเจ้าสายฟ้า

ประวัติ : Thor

เทพเจ้าสายฟ้าบุตรแห่ง Odin ผู้ปกครองเหล่าเทพเจ้าเเห่งดินเเดน Asgard เขาเติบโตมาพร้อมกับพี่น้องบุญธรรม Loki และได้รับมอบ Mjornir ค้อนแห่งเทพสายฟ้าจากบิดาของเขา ในช่วงวัยหนุ่มเขาเป็นเทพที่เจ้าอารมณ์ ใจร้อน หัวรุนแรง และกระหายชัยชนะ

ความรุนแรงในตัวเขาปรากฎให้เห็นเด่นชัดในสงครามระหว่างเทพแห่งแอสการ์ดกับ เหล่ายักษ์น้ำแข็งแห่ง Jotunheim โอดินเห็นว่าควรให้ทอร์เรียนรู้ความดีงามและความเมตตา จึงได้จัดการส่งทอร์ลงมาจุติบนโลกมนุษย์ และลบความทรงจำของเขาในร่างของ Dr. Donald Blake นายแพทย์ผู้มีขาพิการ ในร่างของเบลคเขาได้เรียนรู้ถึงความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ การช่วยเหลือคนป่วย และเรียนรู้ความเศร้าที่เกิดจากความตายของผู้คน

เมื่อโอดินเห็นว่าบุตรชายของเขาเรียนรู้ในสิ่งที่เขาต้องการแล้ว จึงบันดาลให้เบลคประสบเหตุให้ต้องไปติดอยู่ในถ้ำเเห่งหนึ่งในนอร์เวย์ เขาได้พบไม้เท้า ซึ่งเมื่อเขากระแทกไม้เท้าลงพื้น เขาได้กลับกลายสู่ร่างแห่งเทพสายฟ้า ซึ่งแท้ที่จริงแล้วไม้เท้านั้นคือ Mjornir ที่โอดินส่งมายังโลกมนุษย์นั้นเอง!

ในด้านของพลังนั้น ทอร์มีพละกำลัง ความแข็งแกร่งระดับเทพเจ้า สามารถควมคุมพายุ และสายฟ้าได้จากพลังของค้อน Mjolnir ทั้งยังสามารถยิงพลังได้ เปิดประตูมิติได้ เเละทำให้บินได้ ทอร์สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในอวกาศ ไม่ต้องการอาหารเเละน้ำดื่ม ทอร์มีความเป็นผู้นำสูง มีพลังใจที่กล้าหาญเเละหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีความเป็นเทพเจ้าของตน

THE HULK ยักษ์เขียวจอมพลัง

ประวัติ : The Hulk

ดร. บรูซ แบนเนอร์ เค้าคือนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ที่ได้ทำการทดลองสร้างระเบิดรังสีแกมม่าให้กับกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ณ ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ในรัฐนิวเม็กซิโก ระหว่างที่กำลังสาธิตอยู่นั้น ริค โจนส์ เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งได้เข้าไปเตร็ดเตร่ในบริเวณที่ระเบิดเวลากำลังทำงาน บรูซรีบเข้าไปช่วยริคอย่างไม่ห่วงชีวิตตัวเอง ทำให้เขาต้องติดอยู่ในห้องทดลองเเละโดนระเบิดรังสีแกมม่าเข้าไปเต็มๆ แต่เขากลับรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์! 

ในตอนเเรกบรูซพบว่าตัวเองได้กลายร่างเป็น ฮัลค์ ยักษ์ใหญ่สีเทาที่มีนิสัยโหดเหี้ยมในยามดึก ก่อนจะกลับมาเป็นบรูซคนเดิมเมื่อตื่นขึ้นในยามเช้า จนในที่สุดเขาก็กลายร่างเป็นฮัลค์สีเขียวได้จากสารอะดรีนาลีนที่ถูกปล่อยออกมาในยามที่ถูกกระตุ้นอารมณ์โกรธหรือกลัวอย่างรุนแรง โดยฮัลค์นั้นจะมีความทรงจำและสติปัญญาของบรูซเพียงเล็กน้อย อีกทั้งยังขี้โมโหและฉุนเฉียวง่ายจนกลายเป็นตัวอันตราย เเบนเนอร์ได้พยายามหลายต่อหลายครั้งที่จะรักษาตัวเอง ซึ่งผลที่ได้ส่วนใหญ่ก็ล้มเหลว ทำให้ใครๆต่างก็ยังหวาดกลัวเเละยำเกรงเค้าไม่ว่าจะฮีโร่หรือวายร้าย!

ความจริงเเล้วบรู๊ซมีชีวิตในวัยเด็กที่น่าสงสาร เค้ามีพ่อที่เป็นนักฟิสิกส์ที่เกลียดตัวเค้าเเถมยังมีอาการติดเหล้า จนกระทั่งเเม่ของเค้าถูกพ่อฆ่าตาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเเต่เป็นรอยเเผลที่ยั่งรากลึกในจิตใจของบรู๊ซ เเละเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เค้าไม่สามารถเเยกฮัลค์ออกจากตัวเองได้เพราะสภาพจิตใจที่อ่อนเเอเเละโหดร้ายเป็นส่วนหนึ่งที่ปลุกให้ยักษ์ตนนี้ตื่นขึ้นมาเสมอ

จากการที่บรูซโดนรังสีแกมม่าอาบร่าง ทำให้เขากลายร่างเป็นยักษ์เขียวที่ยิ่งโกรธคลุ้มคลั่งมากเท่าไร เขาก็ยิ่งมีพละกำลังมากขึ้น รวมไปถึงความทนทาน และการฟื้นฟูสภาพร่างกายที่เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ฮัลค์ยังมีความต้านทานต่อการบาดเจ็บและการทำลายล้างทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความร้อนระดับแกนดวงอาทิตย์ ระเบิดนิวเคลียร์ โดยเขาสามารถปรับเปลี่ยนสภาพร่างกายในสภาวะต่างๆ เช่น สร้างเนื้อเยื่อเพื่อหายใจใต้น้ำ และความสามารถในการกลั้นหายใจในอวกาศโดยปราศจากชุดและอุปกรณ์ได้เป็นเวลานาน อีกทั้งเมื่อได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังสมานแผลทุกรูปแบบให้หายสนิทได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็สามารถก้าวกระโดดได้ไกลข้ามทวีปเลยทีเดียว เเข็งเเกร่งขึ้นเมื่อได้ดูดซับรังสีเพิ่มได้ด้วย

AGENT PHIL COULSON สุดยอดเจ้าหน้าที่แห่ง S.H.I.E.L.D.

Posted on April 26, 2014 by comicsguide under Marvel

Agent Phil Coulson

Agent Phil Coulson หรือที่เรารู้จักกันในนาม Agent Coulson จากหน่วย S.H.I.E.L.D. มีบทบาทครั้งแรกในหนังเรื่อง Iron Man ภาคแรก ซึ่งได้ช่วย Pepper จากการจู่โจมของ Obadiah Stane และยังทำให้เกิดการตรวจสอบ Obadiah Stane ในภายหลัง

หลังจากเหตุการณ์ใน Iron Man 2  เขาถูกเรียกตัวไปยัง New Mexico เพื่อตรวจสอบวัตถุบางอย่างที่นั้น ซึ่งระหว่างทางที่เขาเดินทางไปนั้นก็ได้เจอกับ โจรกระจอก 2 คนที่ปั้มน้ำมันที่เขาแวะพักเติมน้ำมันและซื้อของกิน ทำให้เกิดเป็น หนังสั้น ของทาง Marvel ที่เรียกกันว่า One-Shot ที่มีชื่อเรื่องว่า A Funny Thing Happened On The Way To Thor’s Hammer

จากชื่อของ One-Shot ก็น่าจะทำให้รู้แล้วว่า วัตถุชิ้นนั้นคือค้อนของธอร์นั่นเอง ซึ่งนำเขาไปสู่การปรากฏตัวอีกครั้งในหนังเรื่อง Thor ซึ่งภายในเรื่องนั่น โคลสันได้เข้าไปทำการยึดอุปกรณ์และงานวิจัยทั้งหมดของ Jane Foster นางเองของเรื่องนั่นเอง ซึ่งโคลสันเหลือไว้ให้เจนเพียงแค่ แปลงสีฟัน

ต่อมา S.H.I.E.L.D. ได้ทำการตั้งพื้นที่กักกันรอบๆ พื้นที่บริเวณที่ค้อนตกลงมา และธอร์ได้ทำการบุกเข้าไปเพื่อต้องการที่จะเอาค้อนคืนมา เตะต่อยกันสนุกสนานเลยทีเดียว ซึ่งโคลสัน สามารถที่จะให้กำลังพลทั้งหมดไปหยุดธอร์ได้ แต่เขาเลือกที่จะปล่อยให้ธอร์เข้าไปถึงค้อนและให้ธอร์ลองยกค้อนขึ้น แต่ก็ไม่สำเร็จ ธอร์ไม่สามารถยกค้อนได้ และธอร์ก็โดนจับตัวไปขัง เช้าวันรุ่งขึ้น โคลสันได้รับการติดต่อจาก เอริค เซลวิค บอกว่าธอร์นั้นคือเพื่อนของเขา ชื่อ “โดนัลด์ เบลค” โคลสันเลยทำการปล่อยตัวธอร์ไปกับเซลวิค

หลังจากนั้นไม่นาน Destroyer ก็โผล่มาทำลายเมืองเละ โคลสันเลยต้องออกมาทำอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่สามารถสู้กับมันไหว ธอร์จึงออกมาช่วย (เดินมาซะอย่างหล่อ โดนตบกระเด็น) ทำให้โคลสันและชิลด์ รับรู้ถึงการมีอยู่ของจักรวาลอื่นนอกจากโลก หลังจากต่อสู้กันเสร็จ โคลสันคืนอุปกรณ์และงานวิจัยให้เจน ฟอสเตอร์ และเป็นพันธมิตรกับธอร์

หลังจากเหตุการณ์ ที่ธอร์ลงมายังโลก ทำให้เกิด Marvel One-Shot อีกเรื่องชื่อ The Consultant โดยเนื้อคือ นิค ฟิวรี่ มีโครงการที่จะสร้างทีม Avenger แต่ทางคณะความมั่นคงโลกต้องการที่จะนำเจ้า The Abomination มาร่วมทีมด้วย ทำให้โคลสันมาพบกับ Agent Sitwell (ถ้าใครดูกัปตันอเมริกา ภาค 2 มาแล้วจะนึกออกและซะใจเล็กน้อย) เพื่อคุยเรื่องที่จะทำยังไงให้ ทางคณะความมั่นคงโลกไม่เอาเจ้า Abomination มาร่วมทีม ทั้งสองคุยกัน จนนึกหาวิธีออก โดยส่ง ที่ปรึกษาของชิลด์ไป คือ สุดยอดมหาเศรษฐี เพลย์บอย ใจบุญไปนั้นเอง (โทนี่ สตาร์ค) ทำให้นายพลรอสไม่ต้องการ Abomination และให้ทางชิลด์เก็บมันไว้

เหตุการณ์ต่อมาคือ The Avenger ซึ่งเขานั่นเสียชีวิตระหว่างต่อสู้กับ Loki ซึ่งภายในหนังนั่น การเสียชีวิตของโคลสันนำมาสู่การรวมทีม The Avenger ขึ้นมา เพราะการตายของโคลสันแปลเปลี่ยนเป็นแรงพลักดันที่ทำให้ทุกคนมารวมพลังกันต่อสู้กับ Loki ที่มีกองทัพ เอเลี่ยนจากอวกาศ ชิทอชิ (ออกเสียงงี้ป่าวก็ไม่รู้ 555)

ภายหลัง เกิดซีรีย์ชื่อว่า Marvel’s Agents of S.H.I.E.L.D. ที่นำเอา โคลสันกลับมา (หะอะไรนะ โคลสันยังไม่ตาย !!!) ซึ่งภายในซีรีย์นั่น จะเผยถึงความลับต่างๆ ของชิลด์  อยากให้ผมเล่าต่อสิน่ะ ถ้าหากคุณยังไม่เบื่อละก็ เหตุการณ์ต่อจากนี้ ค่อนข้างจะเป็นการสปอยด์สำหรับคนที่ไม่เคยดูซีรีย์เรื่องนี้และตามดูแต่หนัง ซึ่งจะค่อนข้างเป็นการสปอยด์หนังกัปตันอเมริกา 2 ด้วย หากยังไม่ได้ดูและกลัวการถูกสปอยด์ ผมแนะนำ ให้คุณเลิกอ่านเพียงเท่านี้นะครับ ผมเตือนคุณแล้วน่ะ !!!

Spoiler Alert !!!!

.

.

.

.

.

.

.

.

ในซีรีย์ช่วงแรกๆ พูดถึงการตายของโคลสันว่า เขานั้นหยุดหายใจไป 8 วินาที ซึ่งหน่วยแพทย์ของชิลด์ทำการช่วยไว้ทัน และส่งตัวเขาไปยัง ตาฮิติ เพื่อบำบัดสภาพร่างกายของเขาและให้เขาพักผ่อน และกลับมาทำงานด้วยทีมที่เขาสร้างขึ้นเอง และเครื่องบินที่ ฟิวรี่ให้เขามาเพื่อทำ ภารกิจพิเศษ และเนื่องด้วยภารกิจพิเศษซะจริงๆ ทำให้โคลสันไปสะดุดกับความจริงที่เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมา โดย โคลสันได้ตามหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เขานั้นคืนชีพขึ้นมา จาก Dr.Streiten และ Dr.Goodman ซึ่งมีชื่ออยู่ในรายงานการช่วยชีวิตเขา โดยทำให้โคลสันรู้ความจริงว่า เขานั้นได้ตายไปแล้วหลายวัน และ คืนชีพมาด้วยสารบางอย่าง ที่ชื่อ  GH-325 ซึ่งมันมีที่มาจาก เอเลี่ยนสีฟ้าตัววหนึ่งที่อยู่ที่ เกสท์เฮ้าส์ซึ่งเป็นที่ทำให้โคลสันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ซึ่ง Dr.Streiten ได้ทำการสร้างความทรงจำทับซ้อนว่าเขานั้นอยู่ที่ตาฮิติแทน เพราะระหว่างที่ทำการให้โคลสันมีชีวิตอีกครั้ง มันค่อนข้างจะทำให้เขาทรมานและ เขาพูดเพียงว่า “ปล่อยผมตายไปเถอะ ปล่อยผมตายไป…” ทำให้ฟิวรี่สั่งให้ Dr.Streiten ใส่ความทรงจำซ้อนไปไม่ให้โคลสันจำเหตุการณ์ระหว่างนั้นได้

 

และหลังจากที่โคลสันรู้ความจริง ก็ได้เหตุการณ์ Hydra ยึด S.H.I.E.L.D. จากภายใน (เหตุการณ์ใน กัปตันอเมริกา 2) ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆมากมาย Agent ระดับสูงตาย ชิลด์ถูกทำลาย ทั้งหักหลังกันเอง เพราะว่า ไม่รู้ว่าใครนั้นเป็น Hydra บ้าง ซึ่ง เจ้า Agent Ward ในทีมนั่นก็เป็น Hydra ทำให้แฟนซีรีย์หลายๆ คน เกลียด Ward กันไปเลยทีเดียว ซึ่งล่าสุดของซีรีย์ โคลสันกำลังตามหา ฟิวรี่ จนมาถึง ฐานลับของฟิวรี่ที่โคลสันได้พิกัดมาจากตราเจ้าหน้าที่ชิลด์ของเขา และได้รู้ว่า ฟิวรี่ยังไม่ตาย (ฟิวรี่ถูกยิงตายใน กัปตันอเมริกา 2 แต่ก็ยังไม่ตายเพราะแกล้งตายทำให้ Hydra ตายใจและกลับมาตลบหลัง เพียร์ซอีกทีและโค่น Hydra ไปได้บางส่วน) ซึ่งส่วนทีเหลือคือ Agent Garrett ที่เป็นครูฝึกของ Ward นั่นเองที่เป็นตัวการคอยบอกข้อมูลต่างๆ ให้ตัวโกงในซีรีย์ได้รู้กัน ซึ่ง กาเรท และ วอร์ดได้หนีไปได้ และกาเรทส่ง วอร์ดกลับมาเพื่อให้สกายแก้รหัส ฮาร์ดไดฟ์ ที่มีข้อมูลเรื่อง GH-325 สารที่ทำให้โคลสันกลับมาชีวิตอีกครั้งนั่นเอง

VISION

ประวัติ : Vision

Vision คือหุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Ultron โดยอาศัยความช่วยเหลือจากการบังคับศาสตราจารย์ Phineas T. Horton นักวิทยาศาสตร์ผู้สร้างหุ่นยนต์มนุษย์ Human Torch (Original Human Torch)

อัลตรอนได้ส่งวิชั่นให้มาจัดการกับเหล่า The Avengers เเต่ทว่าวิชั่นเกิดคิดได้เเละกลับใจหันไปช่วยเหล่าอเวนเจอร์ในการจัดการกับอัลตรอนเเทน ทั้งนี้เพราะ ศจ. Horton ได้แอบโปรเเกรมให้วิชั่นมีความคิดที่เป็นอิสระด้วยตัวของตัวเอง ผลจากการต่อสู้ในครั้งนั้นเหล่าฮีโร่จึงได้ให้สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเค้าด้วยการเชิญให้เข้าร่วมเป็น 1 ในสมาชิกของทีมอเวนเจอร์นั่นเอง

วิชั่นนั่นได้เรียนรู้ถึงจิตใจของมนุษย์ระหว่างที่อยู่ในทีม ทั้งยังค่อยๆมีความรู้สึกที่ดีให้กับ Scarlet Witch จนเมื่อเธอตอบรับ ทั้งคู่จึงตกลงคบหาเเละได้เเต่งงานกัน ก่อนจะถอนตัวจากทีมเพื่อไปใช้ชีวิตคู่ที่ New Jersey

จนกระทั้งการมาถึงของวายร้ายนาม Annihilus วิชั่นจึงได้หวนกลับสู่การต่อสู้เคียงข้างเหล่า The Avengers อีกครั้ง เเละพลาดท่าได้รับความเสียหายอย่างรุนเเรง จนได้รับความช่วยเหลือจาก Starfox โดยลิงค์วิชั่นเข้ากับ ISACC ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ควบคุมดวงจันทร์ของดาวเสาร์ Titan เเต่ด้วยผลจากชิ้นส่วนควบคุมของอัลตรอนในตัวของวิชั่นเองทำให้ ISACC เปลี่ยนเเปลงกระบวนการคิดของวิชั่นไป จนวิชั่นเกิดความคิดที่จะควบคุมคอมพิวเตอร์ทั่วทั้งโลกเพื่อนำยุคใหม่สู่มวลมนุษย์ เเต่ถูกขัดขวางโดยเหล่าสมาชิกอื่นๆในอเวนเจอร์ เเละขาดความเชื่อใจในตัวเค้า ลงท้ายที่วิชั่นถูกฝ่ายรัฐบาลลักพาตัวไปชำเเหละ

หลังจากนั้นทีม West Coast Avengers ได้เข้าไปช่วยเหลือเอาวิชั่นออกมาได้ และได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดย Dr. Pym (Antman) และ Black Panther เเต่ต้องเเลกกับการสูญเสียความรู้สึกเฉกเช่นมนุษย์ไปทั้งหมด เป็นอันจบชีวิตคู่กับ Scarlet Witch ผลจากหลังนั้นก่อให้เกิดการเเตกทีมกันของ Avengers ใน Avengers Disassembled เมื่อ Scarlet Witch เกิดคลั่งจนทำลายวิชั่นทิ้ง ท้ายที่สุดวิชั่นจึงได้กลับมาอีกครั้งโดย Iron Lad สมาชิกจากทีม Young Avengers

ความสามารถของวิชั่นคือความเเข็งเเกร่งเเละทนทานเหนือมนุษย์ อัญมณีบนหน้าผากสามารถปล่อยลำเเสงจากพลังงานเเสงอาทิตย์ได้ สามารถเปลี่ยนเเปลงส่วนต่างๆของร่างกายให้เเข็งเเกร่งได้ดังเพชร เเละลดมวลของตัวเองจนทะลุสิ่งต่างๆได้อย่างวิญญาณ โดยวิชั่นมักใช้ความสามารถนี้ในการเเทรกเข้าไปในร่างกายศัตรูนำมาซึ่งความเจ็บปวดได้

บทความโดย Agent 0

แปลจาก The Marvel Encyclopedia

Vision ในหนัง Avengers: Age of Ultron พากย์เสียงและแสดงโดย Paul Bettany คนเดียวกับผู้ให้เสียง J.A.R.V.I.S. ของ Iron Man

Reverse Flash

ประวัติ : Reverse Flash

Professor Zoom หรือ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Reverse Flash เขาเป็นอาชกรที่แสนฉลาดและยังมีพลังความเร็วจาก SpeedForce ด้านลบ ซึ่งชื่อจริงๆ ของเขาคือ Eobard Thawne (อีโอบาร์ด ทวอน) เขาเกิดใน ศตวรรษที่ 25 พ่อแม่ของเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ดัดแปลงพันธุกรรมของทวอนให้เป็นอัจฉริยะ แต่นั้นทำให้เขาไม่สามารถเข้าสังคมกับคนทั่วไปได้ ทวอนจึงต้องอยู่กับ โรเบิร์น น้องชายของเขานั้นเอง

ต่อมาทวอนได้สนใจในพลังของ SpeedForce เขาจึงเริ่มศึกษาและต้องการวิจัยมัน แต่ทว่ามันผิดกฎหมาย โรเบิร์นซึ่งตอนนี้เป็นตำรวจทางวิทยาศาสตร์ (ไม่รู้ผมใช้คำถูกไหมนะ ประมาณว่า ดูเรื่องความผิดถูกทางวิทยาศาสตร์อะครับ) ได้จับทวอน แต่ทว่าตัวทวอนจากอนาคต ได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตเพื่อหยุดพ่อกับแม่ของเขาไม่ให้โรเบิร์นได้เกิดมาทำให้ทวอนได้ศึกษาพลังของ SpeedForce ต่อไปจนเขาได้กลายเป็น Professor Zoom ในพิพิธภัณฑ์ The Flash และจากการที่เขาศึกษาประวัติและทุกอย่างของ แบร์รี่ อัลเลน ทำให้เขาอยากจะเป็นเหมือนกับแบร์รี่ อยากจะเป็นฮีโร่แบบ TheFlash เขาจึงมุ่งมั่นค้นคว้าจนทำให้เขาได้รับการ Plastomorph operation ซึ่งมันคือการทำให้ ทวอน ได้รับพลังแบบเดียวกับแบร์รี่นั้นเอง พลัง SpeedForce ของเขากับแบร์รี่นั้น มันไม่เกี่ยวข้องกัน (ภายหลังรู้ว่ามันเป็นคนละด้านกันนะครับ เป็น Negative SpeedForce) ในเวลาต่อมาทวอนจึงย้อนเวลากลับไปหาแบร์รี่ แต่ทว่าเขาได้ไปโผล่ในช่วงเวลาหลังจากที่แบร์รี่ตายไปหลายปีแล้ว ซึ่งตอนนั้น วอลลี่ เวสต์ เป็น The Flash อยู่ เขาจึงได้ไปยังพิพิธภัณฑ์ The Flash ทำให้เขารู้เรื่องตัวเองว่าเขานั้นเกิดมาเพื่อเป็นคู่ปรับตลอดกาลกับแฟลช เป็นจอมวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด Professor Zoom นั้นเองงงง !!!!

และนั้นทำให้เขาทวอนเริ่มบ้าหลงคิดว่าตัวเองคือ TheFlash แบร์รี่ อัลเลน เขาจึงได้ไปปรากฏตัวต่อหน้าวอลลี่ เวส ว่าเขาคือแบร์รี่ และได้ร่วมกันเฝ้าดูแลเมืองมาสักพัก จนกระทั่งเมื่อเขาเริ่มบ้าอีกครั้งเมื่อต้องต่อสู้กับ Combine โดย ทวอนดันคลั่งตะโกนออกว่า ฉันนี้แหละฆ่า The Flash ทำให้วอลลี่เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาต้องไม่ใช่แบร์รี่แน่ๆ และหลังจากที่วอลลี่หนีออกมาจาก Combine ได้นั้น ก็ได้เห็นว่า ทวอนกำลังต่อสู้กับทั้ง Green Lantern, Jay Garrick, Max Mercury และ Johnny Quick และทวอนนั้นได้เปลี่ยนชุดกลายเป็นสีที่กลับกันกับของ The Flash แล้ว ซึ่งนั้นเป็นการประกาศตัวแล้วว่าเขานั้นคือวายร้าย ท้ายที่สุดแล้ววอลลี่ก็ส่งทวอนกลับไปยังช่วงเวลาของเขาและนั้นทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับอนาคตที่เขาได้ไปอยู่มาหายไปหมด เหลือทิ้งไว้แต่ “ความเกลียดชังที่มีต่อแบร์รี่ อัลเลน” และนั้นทำให้ทวอนได้กลายเป็นวายร้ายคู่ปรับตลอดกาลของ TheFlash เพราะว่าเหตุผลเดียวที่เหลืออยู่นั้นเอง

ต่อมาในเหตุการณ์ FlashPoint นั้นทวอนได้ค้นพบวิธีที่จะฆ่า TheFlash (แบร์รี่ อัลเลน) โดยไม่ให้ทรงผลกระทบต่อเขา (ตามจริงเเล้วหากเขาฆ่าแบร์รี่นั้น เขาเองก็จะไม่มีพลังแบบแบร์รี่ เพราะว่าเขามีพลังได้ก็เกิดเนื่องมาจากการศึกษาประวัติของแบร์รี่ ซึ่งหากเขาฆ่าแบร์รี่ The Flash ก็จะไม่มีตัวต้น ทวอนเองก็จะไม่ได้ศึกษาพลังของ SpeedForce นั้นเอง) โดยย้อนเวลากลับไปฆ่าแม่ของแบรี่ โดยให้ตัวแบร์รี่ย้อนเวลากลับมาเพื่อช่วยแม่ของเขาไม่ให้ตาย โดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนทำให้อนาคตเปลี่ยนไปทั้งหมด Batman กลับไม่ใช่บรูซ แต่เป็นพ่อของบรูซ ส่วน อควอแมนก็มีศึกต่อสู้กับวอนเดอร์วูแมน ซึ่งแบร์รี่ได้พบกับทวอนและทวอนได้บอกเขาว่าเขาเองนั้นแหละที่เปลี่ยนอดีตทำให้อนาคตเปลี่ยนไป แต่ระหว่างนั้นทวอนได้หลบอยู่ใน SpeedForce ทำให้ทวอนไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ทำให้ทวอนสามารถเล่นงานแบร์รี่ที่นี่ได้อย่างง่ายได้ แต่ระหว่างที่ทวอนพล่ามอยู่ตามประสาตัวร้าย Batman หรือพ่อของบรูซนั้นได้ฆ่าทวอน และแบร์รี่จึงพยายามวิ่งเข้า SpeedForce กลับไปห้ามตัวเองไม่ให้ไปช่วยแม่ของเขา ระหว่างทาง เขาได้เจอกับ Kid Flash (บาร์ธ อัลเลน) หลานของเขาซึ่งได้ให้พลังกับแบร์รี่ทำให้แบร์รี่สามารถไปหยุดตัวเองที่จะไปช่วยแม่ไว้ได้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดในโลก Comic ของ DC กันเลยทีเดียว เกิดเป็นจักรวาล New 52 ในปัจจุบัน

ความสามารถ

– Negative Speed Force : พลังของทวอนนั้นมาจากพลัง Negative Speed Force ซึ่งเป็นด้านลบของ Speed Force พลังของ The Flash ทำให้ทวอนสามารถใช้มันเพื่อตัดพลังของ TheFlash ได้เพราะพลังมันมีขั้วที่หักล้างกัน

– ย้อนเวลาได้โดยไม่ต้องใช้เครื่อง Cosmic Treadmill และเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆโดยไม่ส่งผลสิ่งอื่นๆเลยนอกจากสิ่งที่เขาต้องการจะเปลี่ยน

– พลังความเร็วเหมือน The Flash นั้นแหละครับที่เหลืออะ แต่ทวอนจะไม่ค่อยประยุคใช้ในการต่อสู้แบบแบร์รี่สักเท่าไหร่ ทำให้เราเห็นเขาใช้แค่วิ่งไว สั่นโมเลกุลหลบกระสุน ย้อนไปเวลาไปเปลี่ยนนู่นนี่เท่านั้น